2H/2017 Investment Trend & Guidance

Credited: K Cyber Invest

ลงทุนอย่างไรดีในครึ่งหลังของปี 2560
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีแรก มีทิศทางการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นทั้งในภูมิภาคที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้แล้วอย่างสหรัฐฯ หลังอัตราเงินเฟ้อทยอยปรับตัว บวกกับการจ้างงานเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ในช่วงเดือนมิถุนายนเช่นเดียวกับเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ที่ขยายตัวเกินความคาดหมายของตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ความกังวลทางการเมืองในภูมิภาคยุโรปก็เริ่มคลี่คลายลง ด้านภูมิภาคเอเชียกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย จากมาตรการปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น สัญญาณบวกในประเด็นต่างๆ ที่กล่าวมานี้ทำให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น  เราจึงเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์ในทุกประเภท เว้นแต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันที่ถูกกดดันด้วยปัจจัยเฉพาะ คือมีการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน

ส่วนครึ่งหลังของปี บลจ. กสิกรไทยคาดว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในหลายภูมิภาคทั้งยุโรปและญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะยังคงมีต่อเนื่องเพื่อประคับประคองการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ควบคู่กับแผนการลดขนาดงบดุล โดยจะหันมาเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารเพื่อให้ตลาดรับรู้ทิศทางการดำเนินนโยบายและไม่ตื่นตระหนก นอกจากนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง และการปฏิรูปประเทศในตลาดเกิดใหม่ เป็นอีกแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างช้าๆ และมีความมั่นคงในระยะยาวมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนและส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนให้คึกคักในครึ่งหลังของปีนี้
สำหรับมุมมองการลงทุนในครึ่งปีหลัง ของ บลจ. กสิกรไทย แบ่งได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวทำให้ :  การลงทุนในหุ้นน่าสนใจกว่าตราสารหนี้ โดยเฉพาะฝั่งยุโรป
การฟื้นตัวของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเติบโตได้ดี โดยเฉพาะยุโรป ญี่ปุ่นและตลาดเกิดใหม่ ทำให้การลงทุนในหุ้นมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ(Running Yield) ตามอัตราดอกเบี้ยในภูมิภาคหลัก การลงทุนในตราสารหนี้จึงมีความน่าสนใจน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนในหุ้นมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ แต่ระดับราคาหุ้นในหลายประเทศที่ค่อนข้างแพง อาทิ หุ้นสหรัฐฯ และอินเดีย อาจยังไม่ใช่จังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน ขณะที่ญี่ปุ่นและตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงภายในประเทศที่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำการลงทุนในหุ้นยุโรปที่ราคาอยู่ระดับต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ จากผลประกอบการบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปีนี้ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งประเด็นทางการเมืองที่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ภายหลังผลการเลือกตั้งของประเทศเนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศสออกมาว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุนยูโรโซนเป็นฝ่ายชนะ

2. ปัจจัยเสี่ยงในตลาดโลกยังมีสูง :  แนะนำกระจายการลงทุนในกลุ่มที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ
นักลงทุนจับตาการดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ ที่เป็นความไม่แน่นอนหลักของตลาดโลก โดยเฉพาะความสำเร็จของนโยบายที่โดนัลด์ ทรัมป์หาเสียงไว้ อย่างนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน และการลดความสำคัญด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ  จะส่งผลลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากปัจจุบัน เศรษฐกิจและการเงินโลกมีความเชื่อมโยงกันอย่างมาก ขณะที่นโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้น สวนทางกับนโยบายการเงินในยุโรปและญี่ปุ่น จะส่งผลต่อความผันผวนของเม็ดเงิน และกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตร นอกจากนี้ภาวะฟองสบู่ของภาคอสังหาริมทรัพย์และระดับหนี้ของจีน ยังเป็นอุปสรรคในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมาอาจจะส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงิน ดังนั้นการกระจายการลงทุน และคัดเลือกการลงทุนที่เหมาะสม จึงเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารพอร์ตการลงทุน นอกจากนี้  บลจ. กสิกรไทย ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่มีรายได้  และกระแสเงินสดสม่ำเสมอ รวมถึงหุ้นที่มีความผันผวนต่อวัฎจักรเศรษฐกิจต่ำ ก็ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้

3.สำหรับผู้ลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในประเทศ: แนะนำหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของไทยเพราะยังน่าสนใจ
เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากการดำเนินนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การบริโภคภายในประเทศ และการขยายตัวของภาคส่งออก ขณะที่ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเงินบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเติบโตดี ทั้งนี้ บลจ. กสิกรไทย คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปลายปีอยู่ที่ระดับ 1,650 จุด โดยเห็นว่า การลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากหุ้นเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตสูง รวมทั้งบริษัทขนาดเล็กที่มีผลประกอบการดี ยังเป็นที่รู้จักน้อย ทำให้มีระดับราคามีความน่าสนใจเข้าลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนได้อีกด้วย

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

จัดทำ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 โดยฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย)


Comments