วันนี้ ได้อ่านหนังสือฉบับหนึ่งที่พูดถึงเศรษฐกิจประเทศไทยอาจจะเิกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ อีกครั้งเร็วๆนี้ เนื่องจากการเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดหุ้น และอัตราการเติบโตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เราฉุนคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 15-16 ปีก่อนที่เรียกว่า "ตัมยำกุ้ง"
(เศรษฐกิจฟองสบู่) เกิดจากการเก็งกำไรในคุณค่าที่เกินจริงของสิ่งๆหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ (over valued) และ ความโลภ ที่ผลักดันให้เกิดความกล้าบ้าบิ่น กู้เงินมาเก็งกำไรกันเป็นทอดๆ โดยไม่คำนึงถึง มูลค่าพื้นฐานของสินค้าที่ตัวเองโดดเข้าไปเล่นเกมปั่นราคา พอถึงจุดที่ไม่มีใครกล้าซื้อเป็นมือต่อไป
โดยผู้อื่นคนสุดท้าย หรือที่ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า "แมงเม่า" ก็จะเป็นโดมิโนตัวแรกที่ล้มลง ตามมาด้วยสถาบันการเงิน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และลามไปถึงเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาค
ตัวอย่างเช่น ปัญหาเศรษฐกิจของ USA ในช่วงของ Hamburger Crisis รวมถึงปัญหาของกลุ่มประเทศ Euro ที่เริ่มต้นมาจากประเทศกรีก หรือที่ประเทศไทยเราเคยประสบกันในช่วง "ต้มยำกุ้ง" เมื่อปี 1997.
ถ้ามองให้ดีแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่นั้น เกิดจากกลุ่มคนที่สร้างระบบ เงินตรา และการใช้ นโยบายการค้าเสรีแบบสุดโต่ง ว่ากันว่าสถาบันการเงินสามาถปล่อยเงินกู้ปล่อย มากกว่า 5 เท่า ของสินทรัพย์ของตนที่มีอยู่
นั้นหมายความถึง ถ้าโดมิโนตัวแรกอย่าง แมงเม่าประสบปัญหาจากความผันผวนของตลาดหุ้น หรือเศรษฐกิจมหาภาคเมื่อไหร นั้นคือจุดเริ่มต้นของ ยุค เศรษฐกิจฟองสบู่อีกครั้ง...
จริงๆแล้ว ถ้าพวกเราดำเนินชีวิตแบบที่ในหลวงทรงสอนไว้ในเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ผมคิดว่า
ประเทศไทยเราจะรอดพ้นกับปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่ที่จะเกิดขึ้นไปได้
OOTMAN WALKER
6 MAY 2013
Comments
Post a Comment