Do you know, Why Vietnam conquered USA in the Vietnam War? sure thing Vietnam troop didn't have kind of cool weapon same as USA, but I believe that their Patriotism & Never Give Up Spirit which is their key success factor.
Thanks for ICP program that gave me a chance to work with Sony Vietnam (SEV) which used to get MD award last 2-3 years, and also occupied NO.1 BRAVIA market share in AP region.
Why Vietnam? there are 2 stories that we will understand more about this country.
1) If Chinese wake up 5 AM to work, while Vietnamese already arrived their working place
2) SEV MD (Osaki-san) used to present about Vietnam country overview (during V&S meeting) about Vietnamese Patriotism is much higher than Japanese (very surprise)
Personally, I have to accept that their Patriotism will be key success factor for Vietnam to keep ahead Thailand in AEC community in the next decade... I hope Thai people should restore our Patriotism before it's too late...
Below article is wrote about 16 factors why Vietnam will keep ahead of Thailand in the nearly future.... very interested and have to accept...
1. สนามบินสะดวกกว่าไทย
อันที่จริงสนามบินหลายแห่งในประเทศไทยทันสมัยกว่าสนามบินกรุงฮานอยและนครโฮ ชิมินห์ แต่ที่เวียดนาม เครื่องบินจอดถึงงวงเสมอ...ไม่ต้องต่อรถโค้ชให้เสียอารมณ์แบบบ้านเรา และที่สำคัญในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า นครโฮชิมินห์จะมีสนามบินใหม่ที่ใหญ่กว่าสุวรรณภูมิของเราในขณะนี้เสียอีก
2. คนเวียดนามรักชาติ
ไม่ต้องดูอื่นไกล เขานิยมอาหารของเขาเอง..ประเภทอาหารแฟชั่น/ขยะของฝรั่งเข้าไปตีกินในประเทศ เขาได้ยาก...คุณสมบัติที่ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้น (แม้ทางความคิด) กับใครเช่นนี้เชื่อว่าเหนือกว่า "เลือดไทย" ที่ทำท่าจะเจือจางลงทุกวัน
3. "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"
คนเวียดนามที่เราเห็นแต่งตัวดูปอน ๆ นั้น...เขาชอบสะสมทอง ว่าง ๆ ก็เอามาชื่นชมเล่นเงียบ ๆ... เขาไม่ต้องการทำตัวหรูหรา…เพราะเดี๋ยวถูกเพ่งเล็ง เขามีเงินสะสมไว้มาก แต่ไม่เปิดเผย...ซื้อของก็มักใช้เงินสด ซื้อบ้านอาจมี(กระผม)้เงินบ้าง แต่ก็ยังจำกัดมาก ข้อนี้อาจทำให้ระบบการเงินของประเทศไม่หมุนเวียนมากนัก…แต่ผมก็ยังนิยมความ มัธยัสถ์...มากกว่าการสุรุ่ยสุร่าย สังเกตง่าย ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือสนนราคาของอาหารเวียดนามนั้น.. หาได้ถูกกว่าไทย....มาตรฐานค่าครองชีพไม่ได้ต่ำกว่าไทยเลย...นี่แสดงว่า.... เขามีแหล่งรายได้ที่ไม่เปิดเผยหรือรับ job ทำงานพิเศษต่าง ๆ..ไม่ใช่กินแต่เงินเดือนปกติ
4. คนเวียดนามชอบค้าขาย
เปิดร้านค้าขายแทบทุกหัวระแหง ในทุกท้องที่มีสินค้าครบถ้วนไม่ต้องไปเดินห้างใหญ่หรือไม่ต้องไปย่านการค้า ใด...ด้วยความนิยมค้าขายโดยสายเลือดบวกกับความขยันขันแข็งเช่นนี้...โอกาส ที่เวียดนามจะแซงไทยได้ คงไม่ไกลเกินเอื้อม
5. มีขอทานน้อยกว่าไทย
ในนครโฮชิมินห์ที่มีประชากรไม่แพ้กรุงเทพมหานคร...แต่แทบจะหาขอทานไม่พบ มีแต่คนอุ้มลูกจูงหลานมาขายหมากฝรั่งให้พอรำคาญเล่น คนใจอ่อนก็อุดหนุนกันไปบ้าง แต่ประเภทเป็นขอทานแท้ ๆ...แทบไม่เคยพบ ทางการเขาเอาจริง จับและกวาดต้อนไปฝึกอาชีพ....ไม่ปล่อยให้เกลื่อนถนนแบบไทยที่มีกระทั่งขอทาน เขมรมาเพ่นพ่านเต็มไปหมด (น่าอนาถแท้ ๆ ประเทศไทย)
6. (แทบ) ไม่มีปัญหายาเสพติด หรือเด็กเกเร-อันธพาล
ที่เวียดนามใครขืนเสพหรือค้ายาเสพติด...มีโอกาสเกิดใหม่สูงมาก....เขาไม่ ค่อยขังให้เปลืองข้าวแดงเสียด้วย…ย่านอิทธิพลค้ายาหรือขาใหญ่แบบสลัมเมือง ไทย... แทบหาไม่ได้…ที่เคยมีก็ถูกรื้อไปสร้างแฟลตกันแทบหมดแล้ว
7. เศรษฐกิจ "กระดี๊กระด๊า" ดูดีไปหมด!
ทั้งนี้เพราะเติบโตปีละ 7-10% มาหลายปี ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เวียดนามก็กระอักแบบไทย...แต่ฟื้นตัวเร็วกว่าและฟื้นตัวอย่างมั่นคงกว่าไทย มาก...อนาคตของประเทศแลดูสดใส อยู่ในช่วงขาขึ้น...มีการพัฒนาสาธารณูปโภคอย่างขนานใหญ่และต่อเนื่อง
8. ให้การต้อนรับกระทั่งมหาวิทยาลัยต่างชาติ
นี่เป็นมิติที่ขอย้ำถึงการส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติใน เวียดนาม..มหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศสามารถเข้าไปตั้งสาขาได้....ผิด กับของไทยที่กีดกันมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศ...มหาวิทยาลัยไทยหลายแห่งกลัว การออกนอกระบบ..เพียงเพราะเกรงใจอาจารย์ที่เป็นข้าราชการ...จะสูญเสียผล ประโยชน์....แต่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของนักศึกษาและประเทศชาติ
9. แทบหา "บ้านว่าง" (บ้านที่สร้างเสร็จแต่ไม่มีผู้เข้าอยู่) ไม่ได้เลย
ที่อยู่อาศัยทุกระดับราคาต่างมีคนเช่าหรือซื้ออยู่อาศัย ที่ว่างมีไม่ถึง 5-10% นี่แสดงว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจของอสังหาริมทรัพย์…แทบไม่ปรากฏให้เห็นใน เวียดนามเลย
10. ระบบผ่อนบ้านมีหลักประกัน (ของไทยยังล้าหลังกว่า!)
ในเวียดนามบ้านสร้างเสร็จก็แสดงว่า....การผ่อนชำระค่าบ้านเสร็จพอดี...ซึ่ง เป็นลักษณะ escrow account ที่ป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการ...นำเงินไปหมุนทางอื่นหรือนำไปซื้อรถเมอร์เซ เดส....โครงการต้องนำเงินงวดของการผ่อน....มาก่อสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ..และ หากใครจะขอ(กระผม)้ ....ก็ต้องติดต่อสถาบันการเงินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว....เมื่อสถาบันการเงิน ตกลง....สถาบันการเงินนั้น...ก็จะผ่อนชำระกับโครงการจนแล้วเสร็จแทนเราต่อไป
11. กล้าย้ายสถานที่ราชการออกนอกเมือง แล้วนำที่ดินทำเลทองมาพัฒนา
ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือหรืออื่น ๆ ในฟิลิปปินส์ถึงขนาดย้ายค่ายทหารออกไปนอกเมือง เพื่อนำที่ดินทำเลทองมาพัฒนาเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ... แต่สำหรับไทย คงทำไม่ได้เพราะ "เขตทหารห้ามเข้า" (ฮา) หรือเพราะเรามัก "เจาะยาง"ด้วยการตีขลุมว่า ...ขืนเอาทรัพย์สินไปหาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์....อาจเกิดการการฉ้อราษฎร์บัง หลวง..นี่คือกระบวนการกีดกัน/ยับยั้งความเจริญของชาติอย่างแท้จริง
12. กฎหมายเวนคืนศักดิ์สิทธิ์ทางราชการ
เวียดนามสามารถย้ายชาวบ้านได้ทุกบริเวณที่ต้องการ....อาจมีอิดออดบ้าง แต่ต้องไปภายในเวลาที่รวดเร็ว ....จะมาอ้างรักถิ่นฐานอนุรักษ์เครือข่ายเพื่อนบ้านหรือรักษาจิตวิญญาณชุมชน ไม่ได้เด็ดขาด....และโดยความศักดิ์สิทธิ์นี้เอง....พื้นที่แปลงขนาดใหญ่จึง สามารถนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วง ที...นี่เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เวียดนามก้าวล้ำนำไทยที่ "ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก" เช่นทุกวันนี้
13. กฎหมายมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
บางครั้งแม้แต่ข้าราชการยังตามไม่ทัน....แต่เป็นข้อดีอย่างยิ่งที่ทำให้ กฎหมายสามารถตอบสนองสถานการณ์ใหม่ ๆของการพัฒนาประเทศ ....ไม่เหมือนไทย ที่การแก้ไขกฎหมายเพื่อชาติและประชาชนเชื่องช้าเป็นที่สุด.... เช่น เรามี พรบ.ผังเมืองตั้งแต่ 2475 แต่มีผังเมือง กทม. ฉบับแรกเมื่อปี 2535 หรืออีก 60 ปีถัดมา! เพราะชนชั้นนำของประเทศ...ไม่ต้องการให้ที่ดินของตนเสียผลประโยชน์นั่นเอง. (3).
14. ปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างจริงจัง ท่านเชื่อหรือไม่กัปตันเครื่องบินเวียดนามแอร์ไลน์...ถูกไล่ออกเพียงเพราะ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าประเทศ...มูลค่าเพียงหลักแสนบาท...โดยไม่ผ่านด่าน ศุลกากร ..นักฟุตบอลเวียดนาม 4 คน....ที่ไปรับสินบนในงานแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์เมื่อปี 2548…ขณะนี้ยังติดคุกหัวโตอยู่เลย (4).
เรื่องนี้ประเทศไทยในยุคคุณธรรมนำการเมือง.... เทียบอะไรเขาได้หรือไม่
15. การเมืองเวียดนามมีแต่ความมั่นคง ไม่มีรัฐประหาร
ผมได้รับเชิญจากสมาคมนายธนาคารมาเลเซีย (Malaysian Investment Bankers Association) ไปพูดที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เขาบอก (เชิงขอบคุณประเทศไทย) ว่า หลังรัฐประหารของไทย... มาเลเซียได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆเงินลงทุนแทนที่จะมาไทย....กลับไปมาเลเซีย ...ที่เวียดนามก็เช่นกัน...นักลงทุนไปกันมากมาย.... นักลงทุนทั่วโลกแทบจะข้ามหัวประเทศไทยไปหมด...เพราะเขาไม่นิยมรัฐประหาร!
16. ข้อสุดท้ายนี้น่ากลัวที่สุดกล่าวคือ.... เวียดนามกำลังรวมตัวกัน....แต่ไทยกำลังจะแตก....
นับจากสิ้นสุดสงครามเวียดนามเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา....เวียดนามเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นยิ่ง ๆ ขึ้น.... คนเวียดนามโพ้นทะเล ส่งเงินกลับบ้านจำนวนมหาศาลถึง 150,000 ล้านบาท .(5).แต่ประเทศไทยของเรากลับกำลังจะแตกแยก...ภาคใต้ไม่แน่ว่า...จะต้องปล่อย ให้ปกครองตนเองหรือกลายเป็นประเทศอิสระในไม่ช้าไม่นานนี้ (โอมเพี้ยง ขอให้เดาผิด)....การแตกแยกคุกรุ่นของคนในประเทศ...กลับยิ่งเพิ่มขึ้นหลังรัฐ ประหาร....ไทยกับเวียดนามสวนกระแสกันอย่างนี้ ....แล้วไทยจะเหลือหรือ....
ผมไม่ได้เชียร์เวียดนาม.... แต่หวั่นใจว่าไทยเราจะถอยหลัง...ก็ได้แต่หวังว่าข้อคิด 16 ข้อนี้จะทำให้เราได้ "เสียวสันหลัง" กันเสียบ้าง ปรองดองกันเถอะครับ จำไว้ว่า "เข่นฆ่ากันทำไม… เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งผอง ...ไทยฆ่าไทย ให้ชาติอื่นครอง วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลาน"
ที่มา: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
OOTMAN WALKER
7 April 2013
Comments
Post a Comment